
Pet financing “เมื่อสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องใช้เงิน”
ในยุคที่โครงสร้างของประชากรเปลี่ยนไป สังคมที่มีขนาดครอบครัวเล็กลง และจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ชีวิตท่ามกลางความเครียดและสังคมที่วุ่นวายทำให้การมีสัตว์เลี้ยงเป็นเสมือนสมาชิกในครอบครัวได้รับความนิยมมากขึ้น และมีการให้คำนิยามว่า Pet Parenting เจ้าสัตว์เลี้ยงที่รักเหล่านี้ คลายความเหงาและนำความสุขมาให้เจ้าของไม่น้อยเลยทีเดียว และในขณะเดียวกัน สัตว์เลี้ยงแสนรักของครอบครัวนี้ก็ทำให้เจ้าของมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มตามมาด้วย น้องๆบางตัวมีราคาบางครั้งแพงลิบ มีค่าอาหาร มีค่ารักษาพยาบาล สัตว์เลี้ยงจำนวนมากได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี มีค่าใช้จ่ายในการออกกำลังกาย อาบน้ำทำสปา มีพี่เลี้ยงคอยดูแล มีครูฝึก หรือแม้แต่การเข้ารับบริการใน pet wellness center ข้อมูลจาก บพข. กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัวนั้นเฉลี่ยมากถึง 41,100 บาทต่อปี แล้วพวกเรา ในฐานะเหล่าเจ้าของทั้งหลายเคยวางแผนหรือไม่ว่าน้องหมา น้องแมวของเรา จะต้องใช้เงินอย่างไรบ้างในชีวิตประจำวัน ควรมีเงินสะสมเผื่อยามฉุกเฉินเจ็บไข้ได้ป่วยเท่าไร หรือมีทางเลือกในการประกันความเสี่ยงอย่างไร สำหรับหลายๆครอบครัว น้องๆสัตว์เลี้ยงอาจมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าเจ้าของด้วยซ้ำ เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าน้องๆจะได้รับดูแลอย่างดี ไม่ถูกทอดทิ้ง ในวันที่เราไม่อยู่ การวางแผนการเงินสำหรับสัตว์เลี้ยงของเราไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ และยังเป็นสิ่งจำเป็นมาก เมื่อเราอยากจะหาสัตว์เลี้ยงมาอยู่ด้วยกัน วันนี้เราจะพิจารณาดูกันว่า ถ้าอยากจะมีสัตว์เลี้ยงคู่ใจบ้างควรจะวางแผนการเงินเพื่อสัตว์เลี้ยงอย่างไร
การวางแผนค่าใช้จ่าย
เมื่อวางแผนว่าจะมีสัตว์เลี้ยงเข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัว เจ้าของควรพิจารณาค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น โดยกำหนดให้ตรงกับรูปแบบ lifestyle การเลี้ยงดูตามความเหมาะสม เพราะลักษณะการเลี้ยงดูน้องๆที่พิเศษกว่าก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น การวางแผนที่ดีควรส่งผลให้สัตว์เลี้ยงได้มีสุขภาพแข็งแรงถูกหลักอนามัย อารมณ์แจ่มใส และอยู่ในงบประมาณที่เจ้าของไม่ลำบาก เจ้าของและสัตว์เลี้ยงจึงจะมีความสุขด้วยกันได้ ค่าใช้จ่ายที่ควรนึกถึง ได้แก่ ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล ค่าอาบน้ำ ตัดขน ค่าอุปกรณ์ ค่าเดินทาง และค่าฝากเลี้ยงเมื่อเจ้าของต้องเดินทาง ค่าใช้จ่ายต่างๆนี้อาจเปลี่ยนแปลงไปตามอายุของสัตว์เลี้ยงด้วย เช่น ในช่วงเวลาที่น้องๆเค้าอายุยังน้อย อาจมีค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรม หรือการเดินทางร่วมกับเจ้าของมากและมีค่ารักษาพยาบาลไม่มากนัก แต่เมื่อเค้าอายุมากก็จะมีค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น การวางแผนค่าใช้จ่ายนี้ควรพิจารณาตามอายุเฉลี่ยของสัตว์เลี้ยง เพื่อให้ทราบว่าการจะดูแลเค้าตั้งแต่วันที่เรารับมาไปตลอดชีวิตของเค้าเราจะต้องใช้เงินเท่าไร
ค่าอาหาร : ค่าอาหารเป็นค่าใช้จ่ายหลักที่จะเกิดขึ้น อาหารเม็ดสำหรับน้องหมา น้องแมวจะเริ่มต้นที่ประมาณกิโลกรัมละ 200 บาท และอาจมีราคาสูงขึ้น แตกต่างกันตามคุณภาพ อาหารเปียกมีราคาระหว่างซองละ 20 – 50 บาท เราอาจจะลองคำนวณค่าอาหารในแต่ละวันได้โดยกำหนดปริมาณอาหารเม็ดที่เหมาะสมที่สัตว์เลี้ยงของเรารับประทาน สำหรับเจ้าของมือใหม่ การปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับการเลือกอาหารและปริมาณอาหารที่สัตว์เลี้ยงต้องการต่อวันเป็นการเตรียมตัวที่ดีมากเพื่อให้น้องๆมีสุขภาพแข็งแรง และได้รับสารอาหารที่เพียง
ค่ารักษาพยาบาล : สัตว์เลี้ยงสมาชิกใหม่ของครอบครัว ต้องได้รับวัคซีนประจำปีอย่างน้อยปีละครั้ง วัคซีนจะเริ่มตั้งแพวกเค้ามีอายุประมาณ 8 สัปดาห์ ในช่วงอายุปีแรกจะมีการฉีดวัคซีนหลายเข็ม วัคซีนประจำปี ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันโรคหัดและโรคหวัดแมว วัคซีนรวมป้องกัน 5 โรคของสุนัขและแมว เป็นต้น สัตว์เลี้ยงพิเศษ (exotic pets) เช่น นกแก้ว งู หรือเต่า อาจต้องมีการตรวจสุขภาพ และได้รับวัคซีนที่แตกต่างไป ค่าใช้จ่ายในการรับวัคซีนและตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงทั่วไปจะไม่น้อยกว่าปีละ 1,000 บาท ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพทั่วไปและการฉีดวัคซีนนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดแน่นอนแม้ในเวลาที่สัตว์เลี้ยงของเราสุขภาพดี หากสัตว์เลี้ยงของเรามีการเจ็บป่วย เราก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ค่ารักษาษพยาบาลสำหรับโรคทั่วไปเช่นท้องเสีย เป็นหวัดอาจเริ่มต้นที่ 500 บาท ค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคที่รุนแรงในสัตว์เลี้ยงหรืออุบัติเหตุอาจสูงมากถึงหลายหมื่นบาทก็ได้ เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรวางแผนล่วงหน้าว่าจะออมเงินเพื่อค่าใช้จ่ายเหล่านี้ หรือวางแผนซื้อประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยงอย่างไร
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ : นอกจากค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล สัตว์เลี้ยงของเราจะต้องการอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ที่นอน บ้านของตัวเอง ของเล่นเพื่อคลายเครียด ขนม ค่าออกกำลังกาย ค่าเดินทางท่องเที่ยวกับเจ้าของ ค่าฝากเลี้ยงเมื่อเจ้าของไม่อยู่ ค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่เจ้าของจะเตรียมไว้เพิ่มเติมตามความต้องการและความสามารถของเจ้าของซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว แต่ก็มีมูลค่าไม่น้อยเลยค่ะ
เมื่อวางแผนค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว เราจะทราบจำนวนเงินที่ต้องการเพื่อให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ย่างดีไม่ว่าจะเป็นในเวลาที่เค้าสุขภาพแข็งแรง หรือในยามเจ็บไข้ได้ป่วย ตอนนี้สิ่งที่สำคัญต่อไปคือการเก็บออมเงินเพื่อน้องๆสัตว์เลี้ยง และการจัดการความเสี่ยงที่จะอาจเกิดขึ้น
การออมเงินสำหรับสัตว์เลี้ยง
เมื่อสัตว์เลี้ยงของเราต้องใช้เงิน น้องๆเค้าก็น่าจะมีเงินออมเป็นของตัวเองเหมือนกันค่ะ การออมเงินเพื่อน้องๆสัตว์เลี้ยง จะทำให้เจ้าของอย่างเราคลายความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและค่ารักษาพยายาลได้ดีเลยนะคะ เงินออมของเค้าจะมาจากการที่เราเริ่มสะสมให้นั่นเองค่ะ เหล่าทาสเจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถออมเงินให้สัตวฺเลี้ยงที่รักได้โดยควรจะแยกบัญชีเงินออมไว้ต่างหากสักหนึ่งบัญชีนะคะ เพื่อสะสมเงินและใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น หากใครมีสัตว์เลี้ยงหลายตัวอาจจะแยกบัญชีไว้สำหรับสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวก็ได้ค่ะ ในปัจจุบันเราสามารถใช้ประโยชน์จาก application ของธนาคารต่างๆที่ช่วยเราแบ่งเงินออมออกเป็นหลายกระเป๋าตามการใช้งานของเราได้ การวางแผนออมเงินเพื่อสัตว์เลี้ยงอาจเริ่มจากการวางแผนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในแต่เดือนและออมเงินเพิ่มเติมเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิด แล้วเริ่มต้นฝากเงินเข้าบัญชีที่แยกไว้สำหรับสัตว์เลี้ยงเท่าๆกันทุกเดือนก็ได้ แต่เราต้องทำอย่างสมำเสมอและมีวินัยในการออมเพื่อน้องๆ เช่นเดียวกับที่เราออมเงินของตัวเองนะคะ เงินออมส่วนนี้จะช่วยคลายความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและการรักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยงในกรณีเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงของเราเกิดเจ็บป่วยร้ายแรงซึ่งต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เรายังคงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเองนะคะ และถ้าหากเราสามารถออมเงินให้สัตว์เลี้ยงที่รักได้มากเกินกว่าที่เค้าจำเป็นต้องใช้ เราอาจวางแผนใช้เงินสะสมนี้ไปลงทุนเพื่อให้เงินออมงอกเงยขึ้นในอนาคตก็ได้ การออมเงินเพื่อสัตว์เลี้ยงยิ่งมีความจำเป็นมากขึ้นหากเราเลี้ยงสัตว์เลี้ยงพิเศษ (exotic pets) เพราะปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพให้กับสัตว์พิเศษ และสัตว์พิเศษเหล่านี้ ต้องการการดูแลโดยสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้นจึงทำให้ค่ารักษาพยาบาลค่อนข้างสูง
ประกันภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง
การซื้อประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุให้สัตว์เลี้ยงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงในด้านค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้ ในปัจจุบันบริษัทประกันภัยหลายบริษัทมีผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุให้กับน้องหมาและน้องแมว โดยที่เจ้าของสามารถเลือกกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองตามที่ตัวเองต้องการได้ ค่าเบี้ยประกันของน้องๆสัตว์เลี้ยงนั้นเริ่มต้นที่เฉลี่ยปีละ 1,500 บาท กรมธรรม์ประกันสุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงจะแตกต่างกันตามความคุ้มครองที่ต้องการ ประเภท อายุ และสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยง และเงินชดเชยในกรณีที่สัตว์เลี้ยงเสียชีวิต แผนประกันสุขภาพสัตวฺเลี้ยงอาจจะมีวงเงินสำหรับการฉีดวัคซีนประจำปี และการฝากเลี้ยงเมื่อเจ้าของต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วย หากเจ้าของต้องการมั่นใจว่าสัตว์เลี้ยงจะได้รับการดูแลอย่างดีเมื่อเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติโดยที่เราไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมากนัก การซื้อประกันสุขภาพให้น้องหมาน้องแมวนับเป็นทางเลือกที่ดีมาก
ตอนนี้พวกเราน่าจะเข้าแล้วนะคะ ว่าน้องๆสัตว์เลี้ยงนั้น ต้องใช้เงินและควรมีแผนการเงินของตัวเองไม่ต่างจากมนุษย์เจ้าของเลยค่ะ เพียงแต่น้องๆเค้ารอให้พวกเราวางแผนและเก็บออมให้พวกเค้านั่นเอง สบายจริงๆเลยนะคะ ส่วนทาสย่างเราเริ่มต้นวางแผนเพื่ออนาคตน้องๆได้แล้วค่ะ
แหล่งที่มา :
หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) (IDE)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)