Blogs
ไม่ต้องจบ ม.6 ก็ต่อปริญญาตรีได้ ด้วยการยื่นวุฒิสอบเทียบ GED กับ IGCSE
เมื่อโลกก้าวหน้าขึ้นทุกวันอย่างก้าวกระโดด มีแหล่งเรียนรู้ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทำให้การเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดแค่ในห้องเรียน เด็ก Gen Z อย่างน้อง ๆ สามารถท่องโลกอินเทอร์เน็ตและศึกษาหาความรู้ได้ในทุกที่ทุกเวลา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีความคิดที่เติบโตราวกับผู้ใหญ่ รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบสิ่งใด และมีความรู้เพียงพอที่จะข้ามผ่านระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พร้อมเข้าสู่มหาวิทยาลัยเพื่อต่อปริญญาตรีได้ด้วยการยื่นวุฒิสอบเทียบ GED กับ IGCSE ทางลัดไปสู่ความสำเร็จในชีวิตที่เร็วกว่า ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ มาดูกันว่าข้อดีของการสอบเทียบนั้นมีมากมายขนาดไหน และจะดีแค่ไหนกันถ้าคุณเรียนจบปริญญาตรีด้วยอายุที่น้อยกว่าคนทั่วไป มารู้จักการสอบเทียบ GED กับ IGCSE กันก่อนใช้ยื่นต่อปริญญาตรี ก่อนจะไปทราบกันถึงข้อดี มาดูกันก่อนว่า GED กับ IGCSE นั้นต่างกันอย่างไร โดยการสอบเทียบ GED นั้น จะเป็นการสอบเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายในระบบอเมริกัน โดย GED มาจาก General Educational Development และต้องสอบผ่าน 4 วิชาขึ้นไป จึงจะสามารถ999
บอกต่อไม่มีกั๊ก ปริญญาตรีหลักสูตรนานาชาติ จุดเด่นที่สร้างโอกาสได้งานระดับสากล
วนมาอีกครั้งในทุก ๆ ปี วัฏจักรการศึกษาที่เปลี่ยนถ่ายส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จากเด็กอนุบาลสู่เด็กประถม มัธยม และปิดท้ายที่อุดมศึกษา สถานที่แห่งการเรียนรู้ผ่านตำราที่สุดท้าย ซึ่งช่วยบ่มเพาะนักเรียนนิสิตนักศึกษาให้กลายเป็นคนทำงานที่มีคุณภาพ ทำให้การเลือกเรียนต่อปริญญาตรีต้องวางแผนและหาข้อมูลมาเป็นอย่างดี เพราะการเรียนจุดสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดนี้ จะเป็นตัวกำหนดอนาคตว่าน้อง ๆ ทุกคนจะสามารถเติบโตไปบนเส้นทางสายอาชีพตามที่ใฝ่ฝันได้หรือไม่ และจะเติบโตไปได้ไกลแค่ไหน หลักสูตรที่เลือกเรียนก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานในอนาคตไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งการเลือกศึกษาต่อในหลักสูตรที่มอบโอกาสให้น้อง ๆ ทุกคนได้เติบโตได้ไกลกว่า และประสบความสำเร็จได้เกินกว่าฝันที่ตั้งไว้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดี แค่เริ่มต้นก็มีชัยไปมากกว่าครึ่งแล้ว และหลักสูตรนานาชาติ คือ คำตอบที่ตอบโจทย์ได้อย่างเหมาะสมในยุคปัจจุบัน เมื่อโลกไร้พรมแดนได้เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ ทำให้การทำงานในปัจจุบันนี้ไม่มีอุปสรรคเรื่องระยะทางอีกต่อไป ฉะนั้นการเลือกต่อปริญญาตรีหลักสูตรอินเตอร์จะส่งผลดีต่อผู้เรียนมากกว่าที่คิด ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้เราจะมาส่งต่อข้อมูลแ999
ต่อปริญญาโทหลักสูตรนานาชาติ ทางลัดสู่โลกกว้างได้มิตรแท้จากทั่วโลก
สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนเรียนต่อปริญญาโทนั้น หากคุณยังไม่มั่นใจว่าหลักสูตรแบบไหนกันแน่ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของคุณมากที่สุด การลงทุนให้กับตัวเองครั้งสำคัญนี้ จำเป็นต้องตรึกตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วน วันนี้เราขอแนะนำทางเลือกที่ดีกว่าของคนรุ่นใหม่ ผ่านการเลือกเรียนต่อโทหลักสูตรนานาชาติ แผนการศึกษาที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดโลกใบใหม่ นำไปสู่การเติบโตในหน้าที่การงานระดับสากล ตอบรับสังคมยุคดิจิทัลโลกไร้พรมแดนที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวกลางในการขับเคลื่อน ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตอันใกล้นี้โลกแห่งการทำงานจะไม่ปิดกั้นอยู่แค่ในที่ทำงานแต่เพียงอย่างเดียว และหากคุณอยากเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับความสำเร็จเร็วกว่าคนอื่น ขอบอกเลยว่าการเรียนปริญญาโทนานาชาตินั้นจะช่วยสร้างมิตรแท้จากทั่วโลก ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะทำให้ก้าวต่อไปของคุณเดินได้ไวและไกลกว่าคนอื่น Connection ผลพลอยได้จากการเรียนต่อปริญญาโท Connection หรือเครือข่ายความร่วมมือ ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คุณหรือธุรกิจประสบความสำเร็จได้มากกว่าคนอื่น ซึ่งการมี999
รู้ก่อนตัดสินใจ หลักสูตรปริญญาตรีสองภาษา ต่างจากหลักสูตรนานาชาติอย่างไร
โค้งสุดท้ายของรั้วเด็กมัธยมศึกษา เชื่อว่าหลาย ๆ คนยังคิดไม่ออกตัดสินใจไม่ได้ว่าอยากต่อปริญญาตรีแบบไหนดี ทางเลือกที่มีให้เลือกมากมายเต็มไปหมด จนเกิดความลังเลสับสน และหากจุดหมายปลายทางของน้อง ๆ คือการโกอินเตอร์ แน่นอนว่าทางเลือกจะตีกรอบได้แคบลง และมาจบที่การเรียนต่อปริญญาตรีหลักสูตรสองภาษา หลักสูตรนานาชาติ หรือเลือกเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ แต่หากหลาย ๆ ปัจจัยในการออกเดินทางไกลในวัย 17 – 18 ที่ยังไม่พร้อมมากนัก การเรียนอินเตอร์ในระดับปริญญาตรีของประเทศไทยเราก็ได้มาตรฐานสากลไม่แพ้ที่ใด สามารถต่อยอดไปยังการเรียนต่อต่างประเทศในระดับปริญญาโทได้อย่างเท่าเทียมกับสถาบันต่างประเทศ รวมถึงมีโอกาสด้านการทำงานในอนาคตที่เหนือกว่าคู่แข่งทั่วไป และวันนี้เราจะมาแบ่งปันเกร็ดความรู้ดี ๆ ก่อนที่ทุกคนจะตัดสินใจเลือกเรียนต่อในระดับปริญญาตรี เพื่อให้ตรงตามความต้องการ ให้ได้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างหลักสูตรสองภาษาและหลักสูตรนานาชาติ แบบไหนกันแน่ที่ใช่สำหรับน้อง ๆ ปริญญาตรีหลักสูตรสองภาษา หลักสูตรที่คนอ่อนภาษาอังกฤษก็เรียนได้ &nb999
เคล็ดลับต่อโทให้รอด อนาคตที่ดีกว่า ที่คุณสร้างเองได้
ทั้งคำกล่าวที่ว่า “มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน” หรือ “รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา” คงพอยืนยันได้ว่าองค์ความรู้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องหมั่นศึกษาและต่อยอดอยู่เสมอ แม้จะสำเร็จเสร็จสิ้นการศึกษาจนคว้างานตำแหน่งดี ๆ มาทำได้หลังจากเรียนจบปริญญาตรี แต่หากต้องการมีอนาคตที่ดีกว่าเดิม ต้องไม่ชื่นชมความสำเร็จที่ย่ำอยู่กับที่ การเรียนต่อปริญญาโทถือเป็นตัวเลือกที่คู่ควร ยิ่งในยุคที่ปัจจุบันการแข่งขันเกิดขึ้นได้ทุกที่ โดยเฉพาะในที่ทำงานของคุณเอง การสร้างโปรไฟล์ให้กับตนเองที่ดีกว่า เหนือกว่า และกลายเป็นบุคลากรขององค์กรที่โดดเด่นกว่า จะทำให้โอกาสในการเจริญก้าวหน้าในสายงานพุ่งใส่คุณมากมาย หรือในกรณีนักศึกษาจบใหม่ในระดับปริญญาตรี แล้วต้องการเรียนต่อโทเลย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะคุณจะมีเวลาให้กับการเรียนปริญญาโทอย่างเต็มที่ ไม่ต้องวางแผนรับมือกับสิ่งต่าง ๆ มากเท่าผู้ที่เรียนไปทำงานไป เสียงสะท้อนจากความเหน็ดเหนื่อยแบบยกกำลัง ทำให้หลาย ๆ คนถอดใจ และเลิกเรียนไปในท้ายที่สุด แต่หากคุณลองทำตามเคล็ดลับเรียนต่อปริญญาโทให้รอดทั้ง 5 ข้อต่อไปนี้ มั่นใจได้เลยว่าชีวิตนักศึกษาปริญญาโทในวัยทำงานจะกลับมาสดใสไม่999
แชร์ประสบการณ์การเรียนต่อปริญญาโท MBA ที่ Stamford International University
วันนี้ เรามีบทสัมภาษณ์ของ คุณพิพัฒน์พล จารุการ มาฝากทุกท่าน คุณพิพัฒน์พลปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป General Manager – Oakwood Hotel & Residence Bangkok เป็นอีกหนึ่งท่านที่การเดินทางตามความฝันอาจไม่ได้มาในเวลาที่คาดไว้แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะลงมือทำเพื่อเดินตามความฝันของเขา คุณพิพัฒน์พลได้มาแชร์ประสบการณ์การเรียน MBA ที่ Stamford เรามาดูว่าการเรียนไปด้วยและทำงานไปด้วย ที่เขาว่าหนักหนาสาหัส คุณพิพัฒน์พลสามารถจัดการมันได้อย่างไร